อัพเดตอาการ 3 เด็กหญิง เหยื่อไฟไหม้ รถบัสมรณะ พบอาการดีขึ้น แต่ยังน่าห่วง 2 ราย รักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ เฝ้าระวังใกล้ชิด
จากเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารทัศนศึกษา นักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีครูและนักเรียนเสียชีวิต 23 ราย และมีผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาล 3 คน โดย 2 คน คือ นักเรียนหญิงอายุ 9 ปี และ 7 ปี เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ส่วนอีก 1 คน เป็นนักเรียนหญิง อายุ 14 ปี เข้ารับการรักษาที่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์
ล่าสุด วันที่ 8 ต.ค.2567 รพ.เด็ก ออกแถลงการณ์อาการของผู้ป่วยเด็กหญิง 14 ปี จากการตรวจรักษาเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ตุลาคม พบว่าอาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้ทั้งหมดดีขึ้น ตอบสนองต่อการรักษา ไม่พบการติดเชื้อ ไม่มีปัญหาข้อติดยึด สามารถใช้งานมือ และแขนทั้ง 2 ข้างได้ปกติ ผลการประเมินด้านจิตใจ ผู้ป่วยมีอารมณ์คงที่ ผ่อนคลายมากขึ้น นอนหลับได้
ทั้งนี้ทีมจิตเวชจะดำเนินการประเมินด้านจิตใจผู้ป่วย และญาติอย่างต่อเนื่อง และติดตามอาการเป็นระยะต่อไป โดยสรุปผลการรักษาเป็นที่พึงพอใจของทีมแพทย์
- ขนส่ง ออกประกาศบังคับ รถบัสโดยสาร CNG – LPG นำรถเข้าตรวจสภาพ
- ประชาชนเตรียมร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ 23 ครู-นักเรียน ไฟไหม้รถบัส
อย่างไรก็ตามการรักษาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุไฟไหม้นั้น ต้องใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ ทางทีมแพทย์และพยาบาลของรพ.เด็ก จะให้การดูแลรักษาเด็กอย่างเต็มที่
ส่วนผู้ป่วยหญิงอีก 2 คนที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ นั้น มีรายงานผลการรักษาล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา รายแรก เด็กหญิงอายุ 7 ขวบ อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ระดับที่สอง 13% สัญญาณชีพปกติ ผู้ป่วยหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยสามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ
สามารถสื่อสารความต้องการได้ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง หยุดการให้สารน้ำทดแทนเนื่องจากผู้ป่วยรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี ระดับเกลือแร่แมกนีเซียมในเลือดต่ำ แก้เกลือแร่แมกนีเซียมทางหลอดเลือดดำ ปัสสาวะออกปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน
แผลที่หน้า ปาก หู มือซ้ายคงที่ แผลมือขวามีแผนการตัดแต่งหนังตายในวันพุธนี้ (9 ต.ค.) ทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟูเข้ามาทำพิมพ์ปรับเฝือกให้เหมาะสมในการฝึกการใช้งานของมือและข้อมือ และป้องกันแผลเป็นดึงรั้ง เปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตาลืมตาได้ดี เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทั้งสองตา ขี้ตาลดลง
สรุป ผู้ป่วยยังใส่ท่อช่วยหายใจ ให้อาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูก การรักษาเป็นไปตามแผน
รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ขวบ อาการทั่วไป ไฟไหม้ใบหน้า คอ แขนและมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง 30% สัญญาณชีพปกติ ผู้ป่วยยังคงหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้ เครื่องช่วยหายใจ โดยสามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ
สามารถสื่อสารความต้องการได้ ให้ยาแก้ปวดและให้ยานอนหลับต่อเนื่อง รับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี ระดับเกลือแร่ฟอสฟอรัสต่ำ แก้เกลือแร่ฟอสฟอรัสผ่านสายให้อาหารทางจมูก ภาวะน้ำเกินดีขึ้นโดยได้รับยาขับปัสสาวะทางหลอดเลือดดำ ยังคงมีอาการไข้สูง วันนี้ปรับยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำและเฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง
ทั้งนี้ มีการยุบบวมของใบหน้าและมือทั้งสองข้างดี รับอาหารได้มากขึ้น และวางแผนเพิ่มพลังงานของอาหารขึ้นเรื่อย ๆ เช้าวันที่ 7 ตุลาคม ตรวจพบมีไข้สูง สงสัยภาวะติดเชื้อเริ่มต้น จึงได้เฝ้าระวัง เปลี่ยนยาฆ่าเชื้อ แล้วก็เปลี่ยนเส้นน้ำเกลือให้ใหม่
ส่งตรวจการเพาะเชื้อจากสารคัดหลั่งของแผล เพาะเชื้อจากเลือด (Septic Workup) มีเฝ้าระวังการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น มีวางแผนถอดเครื่องช่วยหายใจภายในสัปดาห์นี้ เปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตาลืมตาได้ดีขึ้น เยื่อหุ้มรกตาขวาเริ่มละลาย เห็นกระจกตา ส่วนบนใสขึ้นบ้างเห็นม่านตาชั้นใน ขี้ตาน้อยลงทั้งสองตา
สรุป ผู้ป่วยยังใส่ท่อช่วยหายใจ ให้อาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูก ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดอย่างต่อเนื่อง