ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เรื่องราวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งปู่ของตนได้ถางหญ้าเพื่อทำที่จอดรถให้หลานอยู่หน้าบ้าน หลังจากถางเสร็จก็มีเพื่อนบ้าน ขับรถเข้ามาจอดทันที แต่ผ่านไปไม่นาน รถของเพื่อนบ้านคนดังกล่าวเกิดยางรั่ว ทำให้เพื่อนบ้านคิดว่าปู่ตนเป็นคนเอาตะปูมาวาง จึงได้มีปากเสียงกัน ก่อนที่ผู้เป็นภรรยาของเจ้าของรถจะเดินมาชกปู่ของตนจนแว่นแตก หลังจากนั้น ปู่ตนจึงได้ไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
กระทั่งถึงเดือนเมษายน ภรรยาของเพื่อนบ้านคู่กรณี ได้ไปแจ้งความว่าบาดเจ็บนิ้วหัก อาการสาหัส ทั้งที่เหตุที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม แต่ผ่านมา 4 เดือน เพิ่งไปแจ้งความ โดยผู้โพสต์เองยังได้โพสต์ภาพใบหมายนัดตัวผู้ต้องหา จากสำนักอัยการจังหวัดกาญจนบุรี และภาพของตัวผู้พูดเองที่กำลังร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ล่าสุดทางทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวที่บ้านในพื้นที่ตำบลท่าไม้ ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นบ้านของปู่ ปลูกขึ้นในที่ของทางรถไฟสภาพเป็นบ้านปูนชั้นเดียว
โดยให้ข้อมูลว่า ตนเป็นคนบอกปู่ว่า ทำที่จอดรถให้หน่อย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหน้าบ้าน จนกระทั่งปู่ทำที่จอดรถเสร็จแล้วเพื่อนบ้านซึ่งเป็นผู้ชายขับรถมาจอด พอตกเย็นมารถดังกล่าวเกิดยางรั่ว ทางภรรยาเจ้าของรถได้มาต่อว่าปู่ตน ว่าเป็นคนทำ ซึ่งปู่ของตนก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำ หลังจากนั้นเพื่อนบ้านคนดังกล่าวก็แซะตลอดเวลา
วันที่ 7 มกราคม ตอนนั้นตนเองไปต่างจังหวัด และพี่สาวตนเองก็อยู่ที่จังหวัดราชบุรี ส่วนตัวปู่ก็ไม่อยู่บ้านมีเพียงย่าที่อยู่ โดยฝั่งคู่กรณีได้ปาก้อนหินใส่หลังคาบ้าน แล้วก็ยืนต่อว่าย่าตน ย่าก็ได้โทรศัพท์ไปบอกตนและโทรบอกปู่ ตนเองจึงได้รีบโทรศัพท์ไปบอกพี่สาว จนกระทั่งปู่และพี่สาวเดินทางมาถึงที่บ้าน และได้ยืนโต้เถียงกับคู่กรณีอยู่หน้าบ้าน ซึ่งขณะเดียวกันภรรยาของคู่กรณีได้เดินอ้อมเข้าทางซ้าย ก่อนที่จะต่อยปู่ตนเข้าทางหน้าด้านซ้ายจนแว่นตาแตก หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปแจ้งความที่โรงพักในวันที่ 7 มกราคม
ตอนนั้นก็คิดว่าเรื่องไม่น่าจะมีอะไรแล้ว ซึ่งเรื่องก็ผ่านมาประมาณสี่ถึงห้าเดือน ทางคู่กรณีที่เป็นผู้หญิงได้ไปแจ้งความ ว่าตนเองนิ้วหัก ได้รับบาดเจ็บสาหัส เกิดจากการทะเลาะกันเมื่อวันที่ 7 มกราคม หลังจากเกิดเหตุคู่กรณีไปโรงพยาบาล วันที่ 8 มกราคม ซึ่งเมื่อวานทางตำรวจโทรมา ก็ได้ใบนัดตัวผู้ต้องหาจากทางอัยการจังหวัดกาญจนบุรี ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตนเองก็ไม่มีทนาย อีกอย่างก็ไม่มีเงินที่จะไปจ้างทนายด้วย ตนก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงได้ไปร้องสื่อเพื่อขอความช่วยเหลือ ทางฝ่ายปกครองอำเภอท่ามะกาได้เดินทางลงมาสังเกตการณ์ พร้อมกับให้คำแนะนำว่าให้ไปที่ศูนย์ดำรงธรรม จากนั้นก็จะให้ทางศูนย์ประสานไปยังยุติธรรมจังหวัดว่าสามารถช่วยเหลือทางไหนได้บ้าง