วันที่ 7 กันยายน เป็นวันที่ต้องจารึกประวัติศาสตร์ เมื่อ พี่แวว สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาฟันดาบหญิงคนพิการ ได้สร้างประวัติศาสตร์แห่งกีฬาพาราลิมปิก
เมื่อเธอสามารถคว้าเหรียญทองที่ 3 ในกีฬาฟันดาบหญิงมาครองได้สำเร็จ นับเป็นคนแรกของโลกที่ทำได้ และรับเงินรางวัลทันที 21.6 ล้านบาท
แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ ชีวิตของพี่แวว สายสุนีย์ จ๊ะนะ ไม่มีคำว่าง่าย จากคนปกติ ได้กลายมาเป็นคนพิการ แต่เธอไม่เคยปิดโอกาสของตัวเอง พร้อมสู้เต็มที่ ซึ่งวันนี้ กระปุกดอทคอม จะพามารู้จักประวัติของเธอกัน
ทั้งนี้ พี่แวว สายสุนีย์ จ๊ะนะ เคยให้สัมภาษณ์กับรายการ perspective ว่า เป็นคน จ.เชียงใหม่ ครอบครัวทำไร่ทำนา และด้วยความที่ สายสุนีย์ จ๊ะนะ เป็นพี่สาวคนโต จึงมีหน้าที่ต้องดูแลพี่น้อง
พี่แววจบการศึกษาแค่ ป.6 ตอนอายุ 17 ปี ก็ไปเรียน กศน. ต่อจนจบ ม.3 และไปทำงานที่นิคมอุตสากรรมลำพูน เมื่อชีวิตกำลังจะดีขึ้น
พี่แวว สายสุนีย์ จ๊ะนะ กลับพบกับจุดพลิกผัน เพราะในวันที่พี่แวว ซ้อนท้ายลูกพี่ลูกน้องไปทำงาน กลับเกิดอุบัติเหตุรถชน และคนขับรถก็หนี ไม่มารับผิดชอบ
ในตอนนั้น อาการบาดเจ็บคือ พี่แววฟันหัก 3 ซี่, หลังหัก, กระดูกแตกทับเส้นประสาท ต้องตัดกระดูกสะโพกไปต่อกระดูกหลัง จนผ่านไป 1 เดือน คุณหมอก็มาแจ้งพี่แววว่า
ให้พี่แววทำใจว่าอาจจะเดินไม่ได้ตลอดชีวิต พี่แววเองก็สิ้นหวัง ทุบขาตัวเองว่าทำไมต้องฟื้น ทำไมไม่ตาย หากเดินไม่ได้ พ่อแม่จะทำอย่างไร น้องจะทำอย่างไร แล้วใครจะหาเงินช่วยครอบครัว
พี่แววต้องอยู่ในโรงพยาบาลกว่า 11 เดือน ตอนที่เข้าเดือนที่ 3 พี่แววต้องฝึกนั่ง ฝึกใส่เสื้อ แต่ปรากฏว่าใส่เสื้อไม่ได้ และเวลาโมโห ตนก็จะขว้างเสื้อทิ้ง แม่เห็นก็จะร้องไห้ พี่แววก็ร้องไห้ และคิดว่าตนเองจะอยู่ไปทำไม
พี่แววเล่าถึงเหตุการณ์ที่ครั้งหนึ่งต้องไปทำกายภาพบำบัด และมีพี่แววอยู่ในห้องคนเดียว ใกล้ ๆ มีหน้าต่าง พี่แววมองว่า ตอนนั้นตั้งใจที่จะตาย จะพยายามสุดชีวิตเพื่อปีนไปโดดหน้าต่างให้ได้
แต่ทำยังไงก็ไม่ได้ ขึ้นได้นิดเดียว จนแม่มาเจอก่อน แม่ก็ตีและถามว่า ทำไมทำแบบนี้ แม่ก็บอกว่า เราเลี้ยงมา 17 ปี ทำไมจะเลี้ยงต่อไม่ได้
ทำไมถึงอยู่ให้เขาไม่ได้ จุดนั้นจึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของพี่แวว และคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ให้ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่เป็นภาระเขา